Category
AD
AIRPORT
Album
ARTICLE
AUDIO
BIGBANG
CF
CLIPS
CONCERT
DAESUNG
drama
DVD
Event
FANARTS
FANMEET
G-DRAGON
GOODS
HAPPY BIRHTDAY
INFO
INTERVIEWS
JAPAN
LA
Lotte
LYRICS
Magazine
Movie
MV
NEWS
PHOTO
PHOTOBOOK
Radio
series
SEUNGRI
SOLO
SPOT
TAEYANG
TEASER
TOP
TOUR
TRANS
TV
WINNER
YG FAMILY
YGFAMIRYTOUR2014
1.7.13
>[INTERVIEW] To Mother and Her Son : KANGDAESUNG AND HIS MOM YOOEUNJUNG [1/2]
มันเป็นวันสบายๆวันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ ท่ามกลางแสงแดดยามเย็นอันแสนสงบ
ฉันกำลังเล่นฟุตบอลกับลูกชายที่สวนสาธารณะ ขณะที่ฉันกำลังจะหยุดพักหลังจากเหนื่อยจนหายใจไม่ทัน
โทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น บรรณาธิการนิตยสาร True Peace โทรมา
ฉันได้รับมอบหมายให้ไปสัมภาษณ์ “คังแดซอง”
ฉันคิดในใจ
“อะไรนะ?? แดซอง สมาชิกวง Bigbang นะเหรอ”
“เขาเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงใช่มั้ย”
โดยปกติแล้ว การสัมภาษณ์บุคคลที่มีชื่อเสียงจะเป็นหน้าที่ของนักข่าวมืออาชีพ
แม้แต่ในหมู่นักข่าวของนิตยสาร True Peace ด้วยกันก็ตาม
ใช่ ฉันมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ ฉันเป็นคนเดียวที่สามารถไปที่โบสถ์ทันทีเพื่อที่จะสัมภาษณ์เขา "คังแดซอง"
เขาอยู่ที่โบสถ์ ณ ตอนนี้ และ ฉันก็อยากรู้จริงๆว่าคุณแม่ของเขาเลี้ยงดูเขาอย่างไรอีกด้วย
แน่นอนว่าฉันสัมภาษณ์เขาด้วยคำถามในลักษณะที่แม่กับลูกพูดคุยกัน
ฉันหวังว่าการสัมภาษณ์ครั้งนี้จะสร้างความพึงพอใจให้กับเหล่าคุณแม่ที่โบสถ์ Pyungkang Cheil นะคะ
>>> ลูกชาย KANGDAESUNG <<<
Q : ยินดีที่ได้พบกันค่ะ แดซอง!!! ตั้งแต่ที่เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนของครอบครัวและฉันก็ได้ยินมาว่า
คุณแม่ของคุณเป็นผู้ศรัทธาที่ดี ในวันนี้ฉันหวังว่าจะสัมภาษณ์คุณในฐานะ "ผู้ที่มีความศรัทธาในศาสนา"
มากกว่าคุณในฐานะ "นักร้อง" นะคะ สิ่งที่คุณแม่ของคุณยังคงทำให้คุณตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้?
แดซอง : แม่ของผมยังเหมือนเดิมเลยครับ แม่มักจะไปโบสถ์เสมอครับตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็ก
และตอนนี้แม่ก็ยังไปอยู่ครับ บ้านของผมห่างจากโบสถ์เพียงแค่ 2 นาทีโดยการเดินนะครับ
เมื่อครอบครัวผมย้ายบ้าน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ระยะห่างระหว่างบ้านกับโบสถ์
ผมไปโรงเรียนสอนคริสตศาสนา [Pyungkang Christian Academy : PCA]
(เขาจบการศึกษาชั้นปีที่ 2 จากที่นี่) และ ไปโรงเรียนกับเพื่อนของผมที่มาจาก PCA
ดังนั้นเพื่อนที่โรงเรียนของผม จึงเป็นเพื่อนที่โบสถ์ด้วยครับ หลังจากโรงเรียนเลิก
ผมมักจะไปที่โบสถ์กับเพื่อนๆครับ เพราะแม่ของผมก็มักจะอยู่ที่โบสถ์ด้วยผมจึงไปเล่นกับเพื่อนที่นั่นครับ
โดยธรรมชาติแล้ว ตอนเด็กๆผมคิดว่า โบสถ์ เป็นเหมือน "สนามเด็กเล่นราคาล้านดอลลาร์ "
แม้แต่บันไดของ Moriah sanctuary ก็เป็นสนามเด็กเล่นของผมด้วยครับ
ตอนนั้นที่โบสถ์มีดอกผกากรองสีแดงเยอะมากเลยครับและมีประตูฟุตบอลที่ลานจอดรถใหญ่ด้วย
ผมจึงใกล้กับโบสถ์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ
Q : ดังนั้นคุณได้รับการเลี้ยงดูมาในสวนของโบสถ์ Pyungkang คุณรู้สึกเสียใจรึเปล่าค่ะ
ที่คุณแม่ของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่ที่โบสถ์
แดซอง : ผมรู้สึกว่า มันเป็นธรรมชาติมากเลย เพราะผมเห็นแม่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ผมยังเด็กมากๆ
ตอนนั้นผมก็มาเจอเพื่อนที่โบสถ์ ผมไม่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นเรื่องที่ยากสำหรับแม่ของผม
ทั้งทางร่างกายและจิตใจแต่ดูเหมือนว่าแม่ของผมจะทำได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนนะครับ
Q : ทำไมคุณแม่ของคุณถึงได้อุทิศตนอย่างมากในเรื่องของความศรัทธาต่อพระผู้เป็นเจ้า?
คุณแม่มีอิทธิพลต่อความศรัทธาในชีวิตของคุณอย่างไรคะ?
แดซอง : แม่ของผมเป็นเหมือนแม่เหล็กที่แข็งแกร่ง คอยที่จะดึงให้ผมกลับมานะครับ(สู่ศาสนา)
ผมทำงานอยู่ในวงการบันเทิง มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผมที่จะห่างไกลจากเรื่องนี้นะครับ
Q : คุณแม่ของคุณมีวิธีที่นำคุณกลับไปอย่างไรคะ? คุณกับคุณแม่มีวิธีการพูดคุยในเรื่องนี้กันอย่างไรค่ะ ?
แดซอง : ผมถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพัง เพราะผมถูกเลี้ยงมาในโบสถ์ ผมรู้สึกกดดันเมื่อเห็นแม่ทำงานและคอยช่วยเหลือที่โบสถ์เสมอ ผมยิ่งรู้สึกมากขึ้นเพราะตอนนี้ผมรู้ซึ้งถึงความสำคัญของการไปโบสถ์และการที่ไม่ได้ไป จริงๆแล้ว ผมค่อนข้างแย่เลยละครับในการติดต่อกับครอบครัว มันยากที่ผมจะไปกับพวกเขา
ดังนั้นแม่ของผมจึงใช้ความเงียบและพลังที่มองไม่เห็น ดึงผมกลับมา
ผมไม่ใช่ผู้ศรัทธาที่ดีอย่างที่สมาชิกที่โบสถ์เห็นกัน ความศรัทธาของผมอ่อนไหวและสั่นคลอนตลอดเวลา
ทุกครั้งที่ผมผิดพลาดหรือล้มเหลวแม่จะคอยดูแลผมเสมอ นั่นทำให้การปรากฏตัวของแม่ทุกครั้งมีความหมายครับ
Q : คุณเป็นลูกแบบไหนสำหรับคุณแม่ของคุณครับ
แดซอง : ผมคิดว่า ผมเป็นประเภทที่สร้างปัญหาตลอดเวลานะครับ
ตอนเด็กๆผมไม่ค่อยเชื่อฟังแม่นะครับและก็ไม่ได้ตั้งใจเรียนด้วย
Q : คุณแม่มีวิธีลงโทษคุณตอนเด็กๆอย่างไรคะ??
แดซอง : แม่ตีผมครับ ผมถูกตีด้วยไม้เรียว [**คนสัมภาษณ์เป็นคุณแม่น่ะค่ะ ลูกของเธอยังเด็ก(ประถม 1)
คำถามนี้เป็นคำถามที่เธออยากรู้มากที่สุดและเธอบอกว่า มันช่วยไม่ได้ที่เธอจะยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบของแดซอง และมีคำว่า ไม้เรียว ในคำตอบของเขา เธอคิดว่า เธอจะไม่เก็บไม้เรียวไว้สำหรับลูกชายของเธอ
และจะไม่เลี้ยงเขาแบบแดซอง คือไม่ลงโทษด้วยการตีด้วยไม้เรียว]
Q : คุณรู้สึกโกรธ ไม่พอใจมั้ยค่ะที่โดนลงโทษแบบนั้น
แดซอง : ผมรู้สึกอย่างนั้นไม่ได้ครับเพราะแม่จะดุผมอย่างมากเลย
ถ้าผมทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร กระดูกของผมอาจจะเคลื่อนได้เลย
(ณ จุดนี้เราทั้งคู่ก็พากันหัวเราะ คนหนึ่งย้อนกลับไปมองอดีตที่ผ่าน
ส่วนอีกคนกำลังวางแผนในอนาคตให้กับลูกของเธอ)
ผมค่อนข้างจะมีข้อห้ามเยอะนะครับ เมื่อเทียบกับเพื่อนของผมแล้ว
การที่จะไปเล่นเกมที่ตู้เกมหรือมีคอมพิวเตอร์ในห้องนอนก็เป็นข้อห้ามเหมือนกันครับ
ตอนผมตัดสินใจที่จะไล่ตามความฝันของผม คือการเป็นนักร้อง ผมก็พบแรงต้านอย่างมากจากครอบครัวของผม ตอนนั้นผมถูกตำหนิมากและเกือบจะถูกเพิกเฉยจากครอบครัวเลยละครับ
Q : ตอนนี้ คุณเป็นลูกายที่ประสบความสำเร็จแล้ว ทำไมคุณยังคิดว่าคุณเป็นคนสร้างปัญหา
สำหรับแม่ของคุณละค่ะ
แดซอง : แม่ไม่ได้มองผมแบบนั้นหรอกครับ แม่มองผมในมุมของอารมณ์ ความรู้สึกภายใน
ไม่ได้มองในแบบที่คนภายนอกมองครับ
Q : แล้วลูกชายแบบไหนที่คุณอยากจะเป็นในอนาคต ??
แดซอง : ผมอยากเป็นลูกชายที่พ่อแม่สามารถไว้วางใจได้นะครับ
ลูกชายที่สามารถทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้ในทุกๆด้านครับ
Q : คุณทำให้พ่อแม่ของคุณรู้สึกเป็นเกียรติอย่างไรค่ะ
แดซอง : โอ้ ถามคำถามนี้กับแม่ของผมเถอะครับ คำถามนี้ทำให้ลูกชายที่ไม่เอาไหนต้องร้องไห้นะครับ
ตั้งแต่เด็กๆแล้วที่ผมมักจะทำให้พ่อแม่ปวดหัว ไม่เหมือนพี่สาวของผม
พี่สาวของผมเป็นนักเรียนที่ดีและเป็นลูกสาวที่ยอดเยี่ยม ผมคิดว่า สิ่งที่พี่สาวผมทำทำให้พ่อแม่มีความสุข
จริงๆแล้วผมไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้หรอกครับ ผมไม่มั่นใจว่า สิ่งที่ทำให้พ่อแม่รู้สึกเป็นเกียรติคืออะไร
สำหรับผมแล้วการที่พ่อแม่รู้สึกเป็นเกียรติ คือ การที่พวกเขามีความสุขเพราะผมนะครับ
Q : คุณยังคงอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศใช่มั้ยค่ะ ฉันไม่เห็นคุณที่คุณะประสานเสียงเลย
แดซอง : ผมอยู่ที่ญี่ปุ่นปีนี้ครับ ถ้าอยู่ที่เกาหลี ผมจะมาที่โบสถ์ในวันอาทิตย์นะครับ
ผมจะร่วมร้องประสานเสียงในช่วงที่ 2 (11โมงเช้า) และช่วงที่ 3 (บ่ายสอง)
บางครั้งผมก็จะร่วมในช่วงที่ 4 ด้วย ผมได้รับความเข้มแข้งจากการสวดภาวนาครับ
โดยผมร่วมสวดภาวนาในวันเสาร์ และ วันอาทิตย์ครับ
Q : ในฐานะแดซอง แห่งวง Big Bang ปีนี้เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
แดซอง : ปีนี้เป็นปีแรกที่ผมปล่อยอัลบั้มเดี่ยวครับ เป็นอัลบั้มภาษาญี่ปุ่น ดังนั้นผมจึงไปทำงานที่ญี่ปุ่น
ในตอนแรกผมกังวลอย่างมาก แต่ผมก็ได้รับผลตอบรับที่ดีและมีโอกาสที่จะจัดคอนเสิร์ตด้วยครับ
เริ่มแรกคอนเสิร์ตจะมีเพียง 4 รอบ แต่ก็เพิ่มมาอีก 21 รอบครับ รวมทั้งหมดแล้วใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
ตอนนี้สมาชิกคนอื่นๆต่างก็ทำงานเดี่ยวกัน แต่พอช่วงปลายปีพวกเราจะมารวมตัวกัน ทำอัลบั้มและก็มี World Tour ซึ่งจะกินเวลาประมาณ 1 ปีครับ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ผมสามารถทำได้ด้วยพรสวรรค์ที่พระเจ้าทรงมอบให้กับผมครับ
Q : ดูเหมือนคุณจะยุ่งตลอดทั้งปีเลย สำหรับปีนี้ความตั้งใจอันแน่วแน่ในเรื่องของความศรัทธาต่อพระเจ้า
คืออะไรคะ แล้ว คุณมีวิธีการที่จะทำให้สำเร็จอย่างไรคะ
แดซอง : ความตั้งใจอันแน่วแน่ของผมที่ไม่เคยหายไป คือ การชักชวนให้ทุกคนเข้าหาศาสนาคริสต์ครับ โดยพยายามใช้ประโยชน์จากอาชีพของผม ให้ได้มากที่สุด **น่าจะหมายความว่า ใช้เสียงเพลงในการเผยแพร่ศาสนา เช่น การที่ไปร้องประสานเสียงที่โบสถ์ ** ผมจะลองยกตัวอย่างดีๆนะครับ การที่ผู้คนที่ไม่รู้จักผม สามารถที่จะจำผมได้ ก็ถือว่าโอเคแล้วนะครับ และก็เป้าหมายอีกอย่างของผม คือ พยายามที่จะซึมซับสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากหนังสือ “The History of Redemption” 6 เล่มแรก และก็จะอ่านเล่มที่ 7 ให้จบด้วยครับ
Q : มันผ่านมาประมาณปีครึ่งแล้วนะคะตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่พวกเราได้สัมภาษณ์คุณ คุณเปลี่ยนไปอย่างไรบ้างค่ะ
แดซอง : ผมได้รับความรักที่ไม่สมควรจะได้รับมากมายจากทั้งสมาชิกของโบสถ์และแฟน ๆ
นั่นทำให้ผมรู้สึกถึงหน้าที่อันยิ่งใหญ่ ตัวตนข้างในของผมไม่ได้เปลี่ยนเลย พลังรอบๆตัวผมดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้น มันเป็นความจริงที่ความศรัทธาของผมอ่อนลง ผมอยู่ต่างประเทศประมาณ 2 ปี เพื่อทำอัลบั้มและเตรียมคอนเสิร์ต ตอนนั้นผมรู้สึกเครียดมาก ผมอยากจะทิ้งทุกอย่างและหนีไป อย่างไรก็ตามตอนนี้ทุกอย่างออกมาดี
ผมรู้สึกขอบคุณมากๆและ ได้ทำทุกอย่างอย่างดี แม้ว่าคนอื่นๆจะบอกว่าผมดูเหนื่อย แต่ผมรู้สึกดีนะครับ
ผมชอบที่จะทำงาน และ รักที่ได้รับฟังคำพูดของพระเจ้า
Q : คุณมีคำพูดพิเศษอะไรมั้ยค่ะ ที่คุณมักจะระลึกอยู่เสมอ
แดซอง : คุณรู้มั้ยครับ คำพูดที่บาทหลวงอาวุโสมักจะเอ็ดพวกเราเสมอๆ คือ “ทำไมถึงไม่เชื่อในสิ่งที่พวกคุณอธิษฐานกัน” “ที่มันไม่เกิดขึ้นเพราะคุณไม่เชื่อนั้นแหละ” คำพูดนี้เป็นจริงเสมอครับ ผมถามตัวเองเกี่ยวกับสิ่งที่ผมอธิษฐาน และ ถามตัวเองว่าผมเชื่อมั่นแค่ไหนที่เรื่องที่ผมอธิษฐานจะเป็นจริง
Q : แล้วคำอธิษฐานวันนี้ละคะ??
แดซอง : มันเกี่ยวกับคอนเสิร์ตอีก 21รอบที่เหลือนะครับ และอีกอย่างผมได้มาที่โบสถ์อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มาเป็นเวลานาน ผมรู้สึกยุ่งเหยิงเล็กๆ ดังนั้นผมจึงอธิษฐานให้ความศรัทธาของผมให้แข็งแกร่งขึ้น และสามารถที่เพลิดเพลินไปกับทุกๆเรื่องของการใช้ชีวิตภายใต้คริสตจักร โดยที่ไม่รู้สึกแปลกแยก ถึงแม้ว่าผมจะขาดในหลาย ๆด้าน แต่ความสามารถที่ผมได้รับจากพระเจ้า คือ เสียงของผม ดังนั้นตอนนี้ผมจะมุ่งเน้นไปที่การทำงานผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่ผมได้รับ สักวันหนึ่งจะช่วยให้ผมทำหน้าที่รับใช้พระผู้เป็นเจ้าผ่านทางเสียงเพลง
Thank to reporter Kang Myung-Sun for the Interview:The Mother and Her Son
cr: champyungan.com/bbs/board.php?bo_table=global1&wr_id=138
Thai trans by – kaewka –
Labels:
BIGBANG,
DAESUNG,
INTERVIEWS